วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

GARRICCA (การ์ริคก้า) โรคหัวใจ,ขับพยาธิต่างๆช่วยขับพยาธิได้หลายชนิด

GARRICCA (การ์ริคก้า) โรคหัวใจ




GARRICCA เสริมอาหารสกัดจากกระเทียม ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ



       กระเทียมเป็นสมุนไพรพื้นบ้านไทยที่ใช้รักษาและป้องกันโรคมาหลายพันปีแล้วคนไทยนิยมนำมาทำอาหาร

      เพื่อดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์และเพิ่่มรสชาติให้กับอาหารประเภทผัดชนิดต่างๆ ได้อย่างดี



      สรรพคุเด่นของกระเทียมมี 2 ประการคือ ใช้ทารักษาโรคผิวหนัง รับประทานแก้โรคความดันสูง และอัตราการเกิดโรคหัวใจ



ประโยชน์ของกระเทียม มีดังนี้



     1.ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

     2.สารสกัดจากกระเทียมมีฤทธิ์ในการช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ



    3.บำรุงร่างกายในกระเทียมมี สารชื่อสคอร์ดินิน ไม่มีกลิ่นแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างรวมทั้งช่วยให้เนื้อเยื่อเจริญเติบโตและช่วยลดไขมันในร่างกาย

   4.ขับพยาธิต่างๆช่วยขับพยาธิได้หลายชนิดได้แก่พยาธิเข็มหมุดพยาธิแส้ม้าพยาธิเส้นด้าย และมีฤทธิ์ฆ่าพยาธิไส้เดือนได้ดี

คุณสมบัติเด่นของประเทียมมีดังนี้




       1. มีคุณสมบัติในการขยายหลอดเลือดและป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคหืด โรคไต โรคตับอ่อนและอาการท้องผูก สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและล้างสารพิษ

      2. ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรีย



      3. ดูแลโรคความดันโลหิตสูง



     4. ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ



     5. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันและรักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

     6. ลดอันตรายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเสื่อมของเซลล์

     7. เป็นยาขับลมช่วยบรรเทาอาหารเสียดท้อง ท้องอืด



     8. บำรุงร่างกาย ช่วยลดไขมันในร่างกาย

     9. ควบคุมโรคกระเพราะ ยับยั้งไม่ให้น้ำย่อยมาย่อยแผลในกระเพราะอาหาร

    10. ขับพยาธิต่างๆได้หลายชนิด ได้แก่ พยาธิเข็มมุด พยาธิแส้ม้า พยาเส้นด้าย  และมีฤทธิ์ใช้ฆ่าพยาธิไส้เดือนได้ดี

สารสำคัญที่พบในกระเทียม



         สารสำคัญที่ทำให้กระเทียมมีกลิ่นหอมฉุนเผ็ดร้อน คือ เอมไซม์อัลลิเนส

        ซึ่งอยู่ภายในเซลล์ของกระเทียมเมื่อกระเทียมถูกบดหรือผ่านกระบวนการแปรรูป อัลลิเนส

        จะถูกปล่อยออกมาเปลี่ยนเป็นสารอินทรีย์กำมะถันอัลลิอิน(Alliin)ให้เป็นน้ำมันหอมระเหยอัลลิซิน 

      ซึ่งเป็นน้ำมันที่ไม่มีสี ละลายได้ทั้งในน้ำในแอลกอฮอล์ เบนซิน และอีเมอร์

      อัลลิซินมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราหลายชนิด

      นอกจากนี้ยังพบว่าในกระเทียมมีธาตุเจอร์เมเนียมค่อนข้างสูง ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันการ








เกิดมะเร็ง โรคหืด โรคไต โรคตับอ่อนและอาการท้องผูก



      รวมถึงมีการชักนำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินบี 1 ได้ดีขึ้นถึง 2 เท่า  

     โดยรวมตัวกันเป็นสารอัลลิไทอะมิน  ทำให้วิตามินบี 1 ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นถึง 20 เท่า

      และมีกำมะถันปนอยู่ในปริมาณสูงและสารประกอบกำมะถันต่างๆ ของกระเทียมสามารถระเหยได้ง่าย



        ทำให้กระเทียมรูปแบบต่างๆ ที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพร แตกต่างกันมากในเรื่องของสารประกอบกำมะถันและความแรงของกลิ่น

       โดยทั่วไปกระเทียมจะมีน้ำมันหอมระเหยประมาณร้อยละ 0.6-1 

คุณค่าอาหาร :



         หัวกระเทียม 100 กรัม ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย

น้ำ                     63.1             กรัม
โปรตีน                5.6               กรัม
แคลเซียม            5                  มิลลิกรัม 
เส้นใย                 0.9               กรัม
วิตามินเอ             5                  กรัม
วิตามินบี              0.17              มิลลิกรัม
วิตามินบี2            0.02              มิลลิกรัม
วิตามินซี              15                มิลลิกรัม

       ปริมาณที่ควรบริโภคเพื่อส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุมกันคือ 1,000-1,500 มิลลิกรัม

      ซึ่งอาจใช้เป็นรูปกระเทียมสด กระเทียมสกัด กระเทียมผงได้


วิธีรับประทาน ครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้งหลังอาหาร


             เลขที่ อ.ย. 13-1-02950-1-0035




ดูข้อมูลที่     http://garriccamir.blogspot.com
 
ขนาดและราคา   1 ขวด 60 แคปซูล ราคา 320 บาท
                   
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ที่
คุณ หทัยณันท์  อัครเรืองวงศ์

https://line.me/ti/p/~kunnut599

             โทร. 064-549-3661 , 095-1639336

                อีเมล์ : kunnut59@gmail.com




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น